วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2558

บิ๊กไบค์ คืออะไร?




 บิ๊กไบค์ คำนี้พูดกันติดหูสำหรับสาวก 2 ล้อ ในบ้านเรากันมากซึ่ง Bigbike ในบ้านเราก็กำลังเป็นที่นิยมกันมากเพราะ รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ สมัยใหม่นี้สามารถจับจองเป็นเจ้าของกันได้ง่าย แต่หลายๆท่านก็อาจจะสงสัยว่า Bigbike คืออะไรล้วมันแบ่งออกเป็นกี่ประเภทกันแน่ วันนี้คอลัมน์ความรู้ทั่วไปจะมาไขข้อข้องใจให้กับหลายๆท่านที่สงสัยกันอยู๋


บิ๊กไบค์ คืออะไร ???

          บิ๊กไบค์ หรือ BigBike ก็คือ คำที่ใช้เรียกรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งขนาดของรถมอเตอร์ไซค์ที่เรียกว่า Bigbike นั้นก็จะใหญ่กว่าขนาดของรถมอเตอร์ไซค์ทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นขนาดของ เฟรม เครื่องยนต์ ล้อ และยาง หรือเมื่อก่อนเราจะเรียกว่ารถ 4 สูบ แต่ในปัจจุบันรถมอเตอร์ไซค์ในรุ่นใหม่ๆนั้น ไม่จำเป็นต้องมี 4 สูบก็สามารถที่จะทำความจุกระบอกสูบได้จำนวน cc. ที่มาก ดังนั้นการเรียกรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่จึงใช้คำศัพท์ใหม่ที่เรียกว่า Bigbike ซึ่งในสมัยนี้รถมอเตอร์ไซค์ที่จะถูกเรียกว่า มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ก็จะมีขนาดของเครื่องยนต์ตั้งแต่ 250cc. ขึ้นไปจนถึง 2,400 cc. ในสมัยนี้รถมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดของเครื่องยนต์เกิน 250cc. ขึ้นไปก็ออกมาสู่ตลาดมากมาย แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อก็จะมีการออกแบบที่แตกต่างกันออกไปอีก ตลอดจนในรถมอเตอร์ไซค์แต่ละรุ่นก็มีความแตกต่างทางด้าน เครื่องยนต์ ที่มีตั้งแต่ สูบเดียวจนถึงหกสูบ การจัดวางของลูกสูบก็มีทั้ง เครื่องยนต์สูบเรียง เครื่องยนต์สูบวี และมาถึงในด้านการส่งกำลังของรถมอเตอร์ไซค์แต่ละรุ่นก็แตกต่างกันออกไปเหมือนกัน มีทั้งแบบที่ใช้ โซ่ แบบใช้ สายพาน และแบบที่ใช้ เพลาขับ เป็นต้น ฉะนั้นจึงต้องมีคำจำกัดความของรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike ในแต่ละแบบแต่ละทรง ออกไปอีกเรามาดูกันต่อว่ามีอะไรบ้าง
บิ๊กไบค์ แบ่งออกเป็นกี่ประเภท ???



                                                   Naked Bike(นักเก็ต ไบค์)
 Naked Bike(นักเก็ต ไบค์) เป็นรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike ที่มีรูปแบบของตัวรถมอเตอร์ไซค์ที่เปลือยแฟริ่งในส่วนหน้าของรถมอเตอร์ไซค์ จะมีแฟริ่งเพียงแค่ด้ายท้ายของรถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น ซึ่งข้อดีของบิ๊กไบค์ แนว Naked Bike นั้นจะเหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองหลวง การขับขี่ในชุมชน การขับขี่ในการจราจรที่หนาแน่น รถมอเตอร์ไซค์แนว นักเก็ต ไบค์ จะมีการขับขี่ที่ง่ายสำหรับสภาพแวดล้อมแบบนั้น การระบายความร้อนของรถมอเตอร์ไซค์ Naked ก็จะมีการระบายความร้อนได้ดีกว่ารถมอเตอร์ไซค์ Bigbike ประเภทอื่นๆ และข้อดีอีกหนึ่งจุดของรถมอเตอร์ไซค์ นักเก็ต ก็คือการออกแบบให้แฮนด์ของรถอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าเบาะคนขี่ ทำให้การขับขี่รถ Naked Bike มีท่วงท่าในการขับขี่ที่ไม่ต้องก้มหรือต้องโน้มตัวไปด้านหน้ารถมากนัก ทำให้การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ BigBike ประเภท Naked Bike นั้นไม่เมือยมากนักทำให้เป็นที่นิยมกันมากในแวดวงผู้ขับขี่ นักเก็ต ไบค์ ซึ่งก็จะมี Ducati Monster 796, Kawasaki Z1000, Kawasaki ER6N, Ducati Streetfighter, KTM Duke เป็นต้น



                                                  Sport Bike(สปอร์ต ไบค์)
 Sport Bike(สปอร์ต ไบค์) เป็นรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike ที่ออกแบบให้มีแนวเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ในการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ทางเรียบ ซึ่งรถมอเตอร์ไซค์แนว Sport Bike จะมีสมรรถนะของเครื่องยนต์และมรรถนะของช่วงล่าง ที่ค่อนข้างสูงกว่ารถมอเตอร์ไซค์ บิ๊กไบค์ ประเภทอื่น ส่วนท่วงท่าในการขับขี่ของรถมอเตอร์ไซค์ สปอร์ต ไบค์ จะเป็นการขับขี่แบบกึ่งนั่งกึ่งหมอบ เพื่อให้ผู้ขับขี่นั้นสามารถควบคุมและทรงตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในการขับขี่ที่ใช้ความเร็วสูงและรถจักรยนต์ Sport Bike แนวนี้ก็จะมี BMW HP4, Kawasaki Ninja, Ducati Panigale, Yamaha R1, Honda CBR1000 เป็นต้น  




                                                       Touring Bike(ทัวร์ริ่ง ไบค์)
Touring Bike(ทัวร์ริ่ง ไบค์) เป็นรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike ที่ออกแบบมาสำหรับคนที่ชื่นชอบการออกทริป การขับขี่ในระยะทางไกล และใช้เวลานาน สามารถวิ่งในสภาพพื้นถนนที่ขรุขระ ซึ่งรถมอเตอร์แนว ทัวร์ริ่งจะมีรูปทรงที่คล้ายๆกับ รถมอเตอร์ไซค์ Sport Bike แต่ตำแหน่งของแฮนด์จะอยู่สูงกว่า ส่วนท่าทางการนั่งจะมีลักษณะที่คล้ายๆกับ รถมอเตอร์ไซค์ Naked Bike ที่จะมีการนั่งขี่ที่สบาย และจุดสังเกตุของรถมอเตอร์ไซค์แนวTouring ก็คือจะมีชิวล์หน้าขนาดใหญ่ที่สามารถบังลมและฝนที่จะเข้ามาปะทะตัวผู้ขับขี่ได้ และรถแนวนี้ก็จะมีKawasaki Versys, Ducati Multistrada 1200 S, BMW K1600 GT เป็นต้น




                                                   Chopper Bike(ชอปเปอร์ ไบค์)
Chopper Bike(ชอปเปอร์ ไบค์) เป็นรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike อีกหนึ่งประเภทที่มีขนาดใหญ่ ที่ต้องเรียว่า ชอปเปอร์ ก็เพราะรถมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้ มีเสียงของเครื่องยนต์ที่ดัง และยังดังเป็นจังหวะๆ คล้ายๆเสียงของเฮลีคอปเตอร์ จงทำให้เรียกรถมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้ว่า Chopper Bike นั่นเอง ซึ่งการที่รถประเภทนี้มีเสียงเครื่องยนต์ที่ดังแบบนี้เกิดจาก รถมอเตอร์ไซค์ ชอปเปอร์ ไบค์ ใช้เครื่องยนต์ 2 สูบ แบบ V มีการจุดระเบิดพร้อมกันทั้ง 2 สูบ จึงทำให้เสียงของเครื่องยนต์ที่ออกมาดังเป็นจังหวะแบบนี้ ส่วนรถประเภทนี้จะออกแบบมาให้มีที่นั่งที่ต่ำและมีแฮนด์ที่สูง อันนี้ขึ้นอยู่กับผู้ขับขี่ว่าจะใส่แฮนด์สูงขนาดไหนโดยรถประเภท Chopper Bike ก็จะมี Harley Davidson, Kawasaki Vulacn, Victory เป็นต้น


บางคนอาจจะยังไม่ค่อยเก็ทเท่าไหร่ว่าเจ้ามอเตอร์ไซค์ที่เค้าเรียกๆ กันว่า "บิ๊กไบค์" นี้มันมีกี่ประเภท แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อเป็นแบบไหนยังไง อาจจะยังสงสัยกัน วันนี้มาทำความรู้จักกันเลย
แน่นอนว่า "บิ๊กไบค์" หมายถึง มอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดใหญ่กว่ารถมอเตอไซค์ทั่วไป เหตุผลที่ต้องมีขนาดใหญ่ก็เพราะมันต้องแบกรับเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่ยักษ์นั่นเอง โดยขนาดเครื่องยนต์มีตั้งแต่ 250 ซีซี ขึ้นไป ในแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อก็จะมีรูปแบบเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นสูบเดียว สี่สูบ หรือแต่งเพิ่มให้เป็นหกสูบ ลูกสูบถูกหจัดวางอยู่ในรูปแบบของสูบเรียงและสูบV ในส่วนระบบส่งกำลังก็จะมีตั้งแต่ระบบที่ใช้โซ่ ใช้เพลาขับ และใช้สายพาน เป็นต้น
โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ
1. Touring บิ๊กไบค์ประเภทนี้จะมีซีซีสูง เพราะต้องแบกรับน้ำหนักตัวและต้องวิ่งในระยะทางไกล จึงออกแบบให้ผู้ขับขี่สบายที่สุด ดังนั้นเอกลักษณ์ของทัวร์ริ่งไบค์คือ บังลมหน้าที่มีขนาดใหญ่ มีกระเป๋าใส่สัมภาระขนาดใหญ่ ในส่วนตัวถังจะไม่สูงมาบังส่วนลำตัวของผู้ขับขี่มากนัก แฮนด์ของรถยกขึ้นพอประมาณเพื่อไม่ให้ผู้ขับขี่ต้องก้มตัวเวลาขับขี่นั่นเอง

2. Sport บิ๊กไบค์รูปทรงปราดเปรียว มีกำลังเครื่องสูง อัตราเร่งสูง เป็นบิ๊กไบค์ที่ใช้สำหรับการแข่งขันในสนามเป็นจุดประสงค์หลักจึงถูกออกแบบให้ควบคุมรถได้ง่ายและทำให้รถไปได้เร็วที่สุด บางครั้งสูงถึง 300km/Hr ผู้ขับต้องโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อลดแรงต้านของลม แฮนด์รถจึงมีลักษณะดร็อปลงและมีตัวถังสูงเพื่อรองรับช่วงลำตัว
3. Cruiser เป็นรถบิ๊กไบค์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการขับขี่ทางไกล และท่องเที่ยวความเร็วต่ำเป็นหลัก ไม่มีบังลมส่วนหน้า เน้นความดิบ มีเสียงดังกระหึ่ม การขับขี่ท่านั่งที่ค่อนข้างสบาย (แต่ไม่สบายเท่ากับทัวร์ริ่งไบค์) โดยมากหลายคนเรียกช็อปเปอร์ แต่ที่จริงแล้วช็อปเปอร์นั้นถูกดัดแปลงมาจาก cruiser อีกที
4. Dual Purpose รถเอนกประสงค์สำหรับขับขี่บนเทือกเขา ได้รับความนิยมในประเทศแถบยุโรป สามารถขับขี่ได้ดีทั้งทางวิบากและถนนเรียบ เพราะเป็นรถขับขี่กึ่งวิบากนั่นเอง แต่มีความแตกต่างจากรถมอเตอร์ครอสตรงที่ขนาดซีซีสูงกว่า และสามารถทำความเร็วสูงได้ดีกว่า
และเนื่องจาก  "บิ๊กไบค์" มีลักษณะการใช้งานหลากหลายรูปแบบ จึงถูกดัดแปลงและแบ่งประเภทย่อยๆ ได้อีกหลากหลาย เช่น
- Naked Bike แนวเปลือยๆ เป็นรถ Sport ที่ถูกจับมาแต่งให้เปรียว เอาแฟริ่งกันลมออก แรงม้าไม่สูง เหมาะสำหรับขี่ในเมือง
- Sport กึ่ง Touring รวมเอาจุดเด่นเข้าด้วยกัน เน้นความสบาย และการเดินทางไกลที่ความเร็วสูง
- Cruiser กึ่ง Touring เป็นรถ Cruiser ที่มีความดิบ กระด้าง แต่สะดวกสบายตามแบบฉบับทัวร์ริ่ง
- Chopper เป็นรถที่ถูกดัดแปลงมาจาก Cruiser อีกทีโดยเพิ่มตะเกียบหน้าหรือโช๊คหน้าที่ยาวเกือบสองเมตร มีการออกแบบให้เบาะอยู่ต่ำกว่ารถบิ๊กไบค์ประเภทอื่นๆ และมีตำแหน่งแฮนด์ที่สูงอยู่ในระดับไหล่หรือสูงกว่าไหล่ของผู้ขับขี่
มาถึงตอนนี้หลายคนน่าจะได้รู้จักบิ๊กไบค์แล้วพอสมควร ใครที่กำลังมองหาสองล้อคันใหญ่อย่าง"บิ๊กไบค์" อยู่ก็หวังว่าจะสามารถเลือกซื้อได้ตามความชอบและการใช้งานที่เหมาะสมนะจ๊ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น